วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เคล็ดลับ การลดหน้าท้องอย่างถูกวิธี

เคล็ดลับ การลดหน้าท้องอย่างถูกวิธี



คน อ้วนส่วนใหญ่ มักมีหน้าท้องยื่นออกมา ทำให้ยุ่งยากในการแต่งตัว นุ่งกระโปรงก็ไม่สวย นุ่งกางเกงก็อึดอัด การลดน้ำหนักให้ได้ผล ต้องควบคุมอาหาร ควบคู่กับ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายใช้พลังงาน ที่สะสมไว้อย่างเต็มที่

การออกกำลังกายเฉพาะส่วนเพื่อเผาผลาญไขมันปรับเปลี่ยน เป็นกล้ามเนื้อให้ร่างกายฟิตและเฟิร์มยิ่งขึ้น จึงเป็นเรื่องสำคัญ ขอนำเสนอ ท่ากายบริหารเฉพาะบริหารหน้าท้อง ดังนี้



ท่าที่ 1 กล้ามเนื้อท้องรวม
ท่าเตรียมพร้อม นอนหงายกับพื้น มือประสานไว้ที่ท้ายทอย งอเข่าเล็กน้อย ยกศีรษะขึ้นในมุมประมาณ 40 องศากับพื้น โดยอาศัยแรงยกจากลำตัวบนและไหล่ทั้งสองข้าง โดยมือควรจะกางออกตึงไว้ แต่ไม่ใช่ห่อ และออกแรงดันศีรษะ เพราะจะทำให้เกิดอาการปวดคอ คอเคล็ดตามมาได้ง่าย

ท่าที่ 2 กล้ามเนื้อท้องด้านบน
นอนราบกับพื้น ขายกตั้งฉาก ใช้ช่วงน่องไขว้กัน เพื่อเพิ่มความหนักเวลายกตัวขึ้น มือประสานกันที่ท้าทอย ยกศีรษะขึ้นโดยอาศัยแรงยกจากลำตัวบนและไหล่ทั้งสองข้าง โดยมือคอยประคองศีรษะเอาไว้

ท่าที่ 3 กล้ามเนื้อท้องด้านข้าง
นอนราบกับพื้น โดยยกเข่าข้างซ้ายขึ้นและพับขาขวาแนวนอนขัดกัน มือประสานกันไว้ที่ท้ายทอย ยกศีรษะขึ้นโดยอาศัยแรงยกจากลำตัวบนและไหล่ทั้งสองข้าง โดยมือคอยประคองศีรษะเอาไว้ ซึ่งท่านี้จะเป็นการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านซ้าย และทำท่าเดิม แต่ยกเข่าขวาขึ้นและพับขาซ้ายสลับข้างกันกับตอนแรก เพื่อบริหารกล้ามเนื้อด้านขวา

ท่าที่ 4 กล้ามเนื้อท้องน้อย
นอนราบกับพื้น พับขาให้ปลอดภัยบรรจบกัน มือประสานกันรองไว้ที่ท้ายทอย ยกศีรษะขึ้นโดยอาศัยแรงยก จากลำตัวบนและไหล่ทั้ง 2 ข้าง โดยมือคอยประคองศีรษะเอาไว้

ท่าที่ 5 กล้ามเนื้อท้องส่วนล่าง
นอนราบกับพื้น ขาเหยียดตรง มือสองข้างวางราบกับพื้น รองใต้สะโพกเพื่อรับน้ำหนักให้ส่วนหลัง เกร็งขาไว้และยกขึ้นตั้งฉาก ค้างไว้นับ 1-10 แล้วเหยียดกลับไปท่าเดิม

ท่าที่ 6 กล้ามเนื้อท้องด้านบนและล่าง
นอนราบกับพื้น มือขวารองไว้ที่ท้ายทอยเพื่อพยุงศีรษะ มืออีกข้างเหยียดตรงตั้งฉากกับลำตัว ยกเข่าด้านขวาให้ตั้งขึ้น และยกขาซ้ายพาดคล้ายท่าไขว่ห้าง ใช้กำลังที่หัวไหล่ขวาและหลังยกตัวเฉียงขึ้น ให้ข้อศอกแทบจรดเข่าซ้าย ทำท่าเดิม แต่เปลี่ยนจากใช้มือขวารองและเข่าขวาตั้ง เป็นมือและเข่าซ้ายแทนเพื่อบริหารกล้ามเนื้อด้านตรงข้าม

แต่ละท่าควรทำซ้ำท่าละ 20 ครั้ง หากเป็นท่าที่ต้องสลับข้าง ให้ทำข้างละ 20 ครั้ง ใช้เวลาในการทำประมาณครึ่งชั่วโมง นอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดหน้าท้องแล้ว ยังช่วยลดปัญหาอาการปวดหลัง ปวดตามตัวได้อีกด้วย

วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

หลักในการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักและรอบพุง

หลักในการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักและรอบพุง
1. การออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกิน (Burn Fat) ควรออกกำลังกายระดับปานกลาง (หัวใจควรเต้น 60-70 % ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด สูตรเท่ากับ 220 - อายุ (ปี)) อย่างน้อยประมาณ 30 - 60 นาทีต่อวัน อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ โดยเริ่มจากกิจกรรมหรือการออกกำลังกายที่ถนัด แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละน้อยจนถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้
2. พยายามแทรกรูปแบบของการออกกำลังกายในชีวิตประจำวัน เช่น การเดินในระยะใกล้ๆ แทนการขับรถยนต์
3. การลดไขมันหน้าท้อง ควรออกกำลังกายด้วยการลุก-นั่ง (Sit-Up) หรือเคอล์อัพ คือ ให้นอนหงาย ชันเข่า ยกหัวไหล่ขึ้นค้างไว้ 10 วินาที แล้ววางหัวไหล่ลง ทำวันละไม่น้อยกว่า150 ครั้ง จะเห็นผลภายใน 2 สัปดาห์ว่ากล้ามเนื้อหน้าท้องกระชับ

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ออกกำลังกาย

ให้ออกกำลังหนักถึงหัวใจเต้นกระหน่ำ โล่กั้นป้องกันมะเร็ง

ผู้ที่ออกกำลัง เป็นประจำอย่างน้อยวันละ 30 นาที จะเป็นมะเร็งน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติถึงครึ่งต่อครึ่งและจะมองเห็นได้ ชัดที่สุด... ผู้ชายที่หมั่นออกกำลังหนักหน่วง จนหัวใจเต้นกระหน่ำทุกวัน จะไม่ค่อยเป็นมะเร็งเหมือนคนอื่น เฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งลำไส้ และกระเพาะอาหารด้วยแล้ว ยิ่งเป็นยากอย่างเห็นได้ชัดที่สุด วารสารวิชาการ
"เวชศาสตร์การกีฬาแห่งอังกฤษ" ได้ เปิดเผยให้ทราบว่า ปัจจัยสำคัญของการหนีโรคมะเร็งที่สำคัญให้ห่าง ขึ้นอยู่กับอัตราการเผาผลาญออกซิเจนของร่างกายในระดับสูง
คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยโคโอปิโอ และอูลูของฟินแลนด์ได้ศึกษาการออกกำลังยามว่างของผู้ชายวัยระหว่าง 42-61 ปี ซึ่งไม่มีประวัติของโรคมะเร็ง เป็นรอบระยะเวลา 12 เดือน จำนวน 2,560 คน และได้ติดตามต่อมาอย่างใกล้ชิดอีก 16 ปี ซึ่งในช่วงระหว่างเวลานั้น พวกเขาเกิดเป็นมะเร็ง โดยมากเป็นมะเร็งของกระเพาะหรือลำไส้ ปอด ต่อมลูกหมาก และสมอง เสียชีวิตไป 181 ราย
จากการตรวจสอบยังได้พบว่า ผู้ที่ออกกำลังเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 30 นาที จะเป็นมะเร็งน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติถึงครึ่งต่อครึ่งและจะมองเห็นได้ ชัดที่สุด โดยเฉพาะในโรคมะเร็งกระเพาะและลำไส้ กับมะเร็งปอด นักวิจัยได้บอกเสริมว่า "การออกกำลังอย่างต่ำควรจะมีความหนักหน่วงขนาดปานกลางจึงจะได้คุณประโยชน์ คุ้มกันไม่ให้ต้องเสียชีวิตลง ด้วยมะเร็งทุกชนิดได้".

ประโยชน์ของพีลาทีส (pilates benefits)

ประโยชน์ของพีลาทีส (pilates benefits)
- กระชับกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เช่น หน้าท้อง ต้นขา สะโพก หลัง เป็นต้น
- สร้างความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย
- ปรับปรุงการหายใจและเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและจิตใจ
- ปรับปรุงการทำงานของอวัยวะให้ทำงานประสานกันได้เป็นอย่างดี
- สร้างสมาธิ และพละกำลังให้ดีขึ้น
- ช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายจากอาการบาดเจ็บ
- สร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ

พีลาทีส

พีลาทีสเป็นวิธีการออกกำลังกายแบบหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย ซึ่งเป็นที่รู้จักแพร่หลายมานานกว่า 80 ปีแล้ว โดยได้ชื่อมาจากผู้ที่คิดค้นการออกกำลังกายชนิดนี้ขึ้นมา คือ โจเซฟ พิลาทีส การออกกำลังกายแบบ พิลาทีส สามารถทำได้ทั้งการออกกำลังกายแบบไม่มีอุปกรณ์ และใช้อุปกรณ์พิเศษ เช่น เครื่องรีฟอร์เมอร์(reformer) เป็นต้น คุณสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายและจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆได้ถูกต้อง สร้างความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย และเมื่อฝึกเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างและบุคลิกภาพของตัวเองอย่างชัดเจน

พีลาทีส (pilates)

พีลาทีส (pilates) คืออะไร

พีลาทีสเป็นวิธีการออกกำลังกายแบบหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย ซึ่งเป็นที่รู้จักแพร่หลายมานานกว่า 80 ปีแล้ว โดยได้ชื่อมาจากผู้ที่คิดค้นการออกกำลังกายชนิดนี้ขึ้นมา คือ โจเซฟ พิลาทีส การออกกำลังกายแบบ พิลาทีส สามารถทำได้ทั้งการออกกำลังกายแบบไม่มีอุปกรณ์ และใช้อุปกรณ์พิเศษ เช่น เครื่องรีฟอร์เมอร์(reformer) เป็นต้น คุณสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายและจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆได้ถูกต้อง สร้างความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย และเมื่อฝึกเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างและบุคลิกภาพของตัวเองอย่างชัดเจน

ประโยชน์ของพีลาทีส (pilates benefits)

- กระชับกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เช่น หน้าท้อง ต้นขา สะโพก หลัง เป็นต้น

- สร้างความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย

- ปรับปรุงการหายใจและเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและจิตใจ

- ปรับปรุงการทำงานของอวัยวะให้ทำงานประสานกันได้เป็นอย่างดี

- สร้างสมาธิ และพละกำลังให้ดีขึ้น

- ช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายจากอาการบาดเจ็บ

- สร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ

ท่าต่างๆของPILATES

1. The hundred

2. Roll up

3. Leg circle

4. Rolling like a ball

5. Single leg stretch

6. Double legs stretch

7. Criss cross

8. Swan dive

9. Single leg kick

10. Double legs kick

11. Spine stretch

12. Open leg rocker

13. The corkscrew

14. The saw

15. Side kick

16. Swimming

17. Legs pull front

18. Legs pull back